ไม่เห็นเป้าหมาย การศึกษาเข้าถึงยาก-คุณภาพต่ำ
ตอกย้ำให้รู้สึก ‘เรียนไปไม่คุ้มค่า’
เยาวชนครัวเรือนเกษตรยากจนที่ไม่กล้าฝันเพราะความไม่แน่นอนในชีวิต ยังถูกตอกย้ำด้วยสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ชนบท ซึ่งฉายให้พวกเขาเห็นถึงความเป็นไปได้ในชีวิตจำกัด ในมิติการศึกษาและการทำงาน ตำแหน่งงานในชนบทเกือบครึ่งหรือร้อยละ 45.6 อยู่ในภาคเกษตร7 ยิ่งไปกว่านั้น ตำแหน่งงานถึงร้อยละ 90.5 ยังเป็นงานทักษะต่ำถึงปานกลาง มีเพียงร้อยละ 9.4 เท่านั้นที่เป็นงานทักษะสูง8 ฉะนั้น เยาวชนจึงฝันถึงอาชีพในอนาคตได้ไม่กี่อาชีพ
งานสัมภาษณ์และศึกษาภาคสนามของ คิด for คิดส์ และ The101.world พบว่า เยาวชนครัวเรือนเกษตรส่วนใหญ่ฝันอยากทำงานทักษะต่ำถึงปานกลาง ซึ่งคนรอบตัวทำแล้วมีรายได้ค่อนข้างสูง เมื่อเปรียบเทียบกับรายได้เฉลี่ยของคนในท้องถิ่น เช่น พนักงานทวงหนี้นอกระบบ พนักงานร้านสะดวกซื้อ ร้านชำ และร้านอาหาร กรรมกรก่อสร้าง และโรงงาน คนขับรถ และไรเดอร์ มีเพียงส่วนน้อยที่ตั้งเป้าหมายถึงอาชีพทักษะสูงที่พอพบเห็นได้ในพื้นที่ เช่น ครู พยาบาล และตำรวจ ด้วยเหตุนี้ เยาวชนจำนวนมากจึงไม่เห็นความจำเป็นในการศึกษาต่อขั้นสูง ต้องการเพียงได้วุฒิมัธยมศึกษาซึ่งพอสำหรับอาชีพที่ตนมุ่งหวัง
ขณะเดียวกัน บริการการศึกษาพื้นที่ชนบทยังเข้าถึงยากและมีคุณภาพต่ำ ส่งผลให้เยาวชนยิ่งรู้สึกไม่คุ้มค่าที่จะเรียน ตัวอย่างอุปสรรคการเข้าถึงคือ สถานศึกษามักตั้งอยู่ไกลจากบ้านของนักเรียน โดยในต่างจังหวัด มีสถานศึกษาทุกประเภทกระจายอยู่เฉลี่ย 0.1 แห่งต่อพื้นที่หนึ่งตารางกิโลเมตร น้อยกว่ากรุงเทพ-มหานครและปริมณฑลที่มี 0.5 แห่งต่อตารางกิโลเมตรถึงสี่เท่าตัว9 ทั้งนี้ ยิ่งระดับการศึกษาสูงขึ้น ก็ยิ่งมีสถานศึกษาน้อยลงและมีแนวโน้มตั้งอยู่ไกลยิ่งขึ้น
นักเรียนครัวเรือนเกษตรหลายคนต้องนั่งมอเตอร์ไซค์ รถสองแถว หรือรถโรงเรียนข้ามอำเภอหรือจังหวัดเพื่อเดินทางไปเรียนทุกวัน พวกเขาจึงมีต้นทุนการเดินทางไปเรียนสูง คิดเป็นร้อยละ 3.3 ของรายได้ต่อคนของครัวเรือน ถือเป็นสัดส่วนมากกว่าต้นทุนของนักเรียนเมืองที่ร้อยละ 3.0 เล็กน้อย10 ยังไม่นับรวมว่าบางส่วนอยู่ไกลจนต้องย้ายไปอยู่หอพักใกล้โรงเรียน เพิ่มต้นทุนการเข้าถึงให้สูงขึ้นไปอีก
ถึงกระนั้น คุณภาพการศึกษาที่ได้รับกลับไม่สนับสนุนให้พวกเขาพัฒนาทักษะจำเป็นได้ดังที่ควร จากผลการประเมินนักเรียนนานาชาติ (Programme for International Student Assessment, PISA) ครั้งล่าสุดเมื่อปี 2022 นักเรียนอายุ 15 ปีในโรงเรียนที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ชนบทและเมืองเล็ก มีทักษะการอ่าน คณิตศาสตร์ และวิทยาศาสตร์โดยเฉลี่ยต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของประเทศ และต่ำกว่านักเรียนจากพื้นที่เมืองใหญ่ประมาณหนึ่งระดับ (จากทั้งหมด 6 ระดับ)11 ผลข้างต้นสะท้อนว่าการศึกษาในพื้นที่ชนบทคุณภาพย่ำแย่ ต่อให้เยาวชนครัวเรือนเกษตรอยากฝันกว้างไกล ทะเยอทะยาน และท้าทาย แต่พวกเขาก็ไม่เชื่อมั่นว่า ระบบการศึกษานี้จะช่วยเติมเต็มฝันได้จริง
ครัวเรือนเกษตรมัก ‘แหว่งกลาง’
สนับสนุน-จัดการปัญหาเด็กและเยาวชนได้จำกัด
ท่ามกลางบริบทที่ไม่เอื้อให้เยาวชนกล้าฝัน ครัวเรือนเกษตรก็มีขีดความสามารถในการช่วยผลักดันพวกเขาได้จำกัด เนื่องด้วยจำนวนมากเป็นครัวเรือนแหว่งกลาง ซึ่งมีเพียงปู่ย่าตายายอาศัยอยู่กับหลาน จากผลสำรวจของสำนักงานสถิติแห่งชาติในปี 2023 เด็กอายุไม่เกิน 14 ปีในครัวเรือนเกษตรถึงร้อยละ 31.9 ไม่ได้อาศัยอยู่กับทั้งพ่อและแม่12 งานสัมภาษณ์และศึกษาภาคสนามของ คิด for คิดส์ และ The101.world ยังพบว่า ครัวเรือนลักษณะนี้จะกระจุกตัวอยู่นอกเขตชลประทาน เพราะมีรายได้การเกษตรต่ำและไม่แน่นอนกว่า สมาชิกครอบครัวรุ่นพ่อแม่จึงมีแนวโน้มอพยพออกไปทำงานในพื้นที่เมืองใหญ่และพื้นที่อุตสาหกรรมหนาแน่นมากกว่า
โดยทั่วไปแล้ว ครัวเรือนแหว่งกลางมักเผชิญปัญหาช่องว่างระหว่างวัยของผู้ปกครองกับบุตรหลาน ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ปกครองในครัวเรือนเกษตรเองยังเข้าถึงการศึกษาไม่มากนัก หัวหน้าครัวเรือนเกษตรที่มีเด็กและเยาวชนกว่าสองในสามหรือร้อยละ 68.6 สำเร็จการศึกษาต่ำกว่าระดับมัธยมศึกษาตอนต้น13
ด้วยเหตุนี้ ผู้ปกครองจึงสนับสนุนและผลักดันการเรียนรู้ของบุตรหลานได้น้อย ไม่สามารถสอนการบ้าน ส่งเสริมการเรียนรู้นอกบริบทโรงเรียน และกระตุ้นให้คิดฝันและวางแผนอนาคตอันไกลได้มากนัก พวกเขายังไม่เข้าใจและไม่รู้วิธีจัดการปัญหาที่บุตรหลานเผชิญ จึงมักปล่อยปละหรือตามใจ จนปัญหาบานปลายเรื้อรัง กลายเป็นอุปสรรคในการกล้าและเติมเต็มความฝันของบุตรหลานในระยะยาว ทั้งนี้ ปัญหาที่พบมากจากการสัมภาษณ์และศึกษาภาคสนามได้แก่ ปัญหาโภชนาการ ติดโทรศัพท์-เกม และติดสารเสพติด โดยเฉพาะอย่างยิ่งบุหรี่ไฟฟ้า กัญชา กระท่อม และยาบ้า
ท้ายที่สุด ผู้ปกครองที่เป็นปู่ย่าตายายจำนวนหนึ่งยังอยู่ในภาวะพึ่งพิง เช่น ชรามาก พิการ ป่วยหนัก และป่วยติดเตียง ส่งผลให้บุตรหลานต้องรับผิดชอบดูแลและหารายได้แทน กลายเป็นอีกหนึ่งปัจจัยกีดกันมิให้พวกเขากล้าและมีโอกาสเติมเต็มความฝันได้อย่างอิสระ
“อยู่กับปู่ย่าตายาย บางทีก็มีปัญหาว่าเขาสอนไม่ได้ การบ้านคณิตศาสตร์อย่างนี้ เขาไม่ได้เรียนมา ไม่รู้เรื่อง เด็กก็เล่นแต่โทรศัพท์ แล้วก็หล่นจากการเรียนไปเลย“
เรื่องเล่าจาก จำเนียร
ผู้อำนวยการโรงเรียน จังหวัดชัยนาท
รัฐบาลต้องเติมรายได้พื้นฐานให้ประชากรวัยเรียน
พร้อมลดต้นทุนการเข้าถึง-เพิ่มคุณภาพการศึกษา
ความไม่แน่นอนของรายได้การเกษตรส่งผลกระทบต่อเด็กและเยาวชนครัวเรือนเกษตร บั่นทอนคุณภาพชีวิตในระยะสั้นช่วงขาดรายได้ ควบคู่กับปิดกั้นมิให้พวกกล้าฝันกว้างไกล ทะเยอทะยาน และท้าทายในระยะยาว ความไม่กล้าฝันยังถูกตอกย้ำด้วยการไม่เห็นโอกาสการทำงานในท้องถิ่น เยาวชนจึงมองว่าการศึกษาระดับสูงไม่จำเป็น อีกทั้งไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับต้นทุนการเข้าถึงที่ต้องจ่าย คุณภาพการศึกษาที่ได้รับ และค่าเสียโอกาสที่ไม่เลือกออกไปทำงาน ท่ามกลางสถานการณ์นี้ ครัวเรือนยังสามารถช่วยผลักดันพวกเขาได้จำกัด เนื่องจากจำนวนมากแหว่งกลาง ผู้ปกครองจึงมีช่องว่างทางวัยกับบุตรหลานกว้าง และมีภูมิหลังด้านการศึกษาต่ำ
ความกล้าฝันนับว่าสำคัญต่อเด็กและเยาวชนมาก ชีวิตพวกเขาจะก้าวเดินไปได้ไกลเท่าไร แรกสุดก็ขึ้นอยู่กับว่าสามารถฝันได้ไกลแค่ไหน ขณะเดียวกัน ยังขึ้นอยู่กับว่าสังคมสนับสนุนได้ดีเพียงใด ซึ่งจะประกันให้พวกเขามั่นใจและเห็นความเป็นไปได้ที่จะประสบความสำเร็จในการเติมเต็มความฝันนั้น
รัฐบาลจึงควรส่งเสริมความกล้าฝันให้เด็กและเยาวชนครัวเรือนเกษตร ผ่านการขยายเงินอุดหนุนเด็กและเยาวชนวัยเรียนให้ทั่วถึงและเพียงพอ เพื่อเป็นตาข่ายรองรับมิให้พวกเขาถูกกระทบจากความไม่แน่นอนของรายได้การเกษตรรุนแรงเกินไป
นอกจากนี้ รัฐบาลควรลดต้นทุนการเข้าถึงการศึกษา โดยจัดตั้งระบบรถโรงเรียนและ/หรือรถประจำทางสาธารณะในชนบทที่ครอบคลุมและค่าโดยสารต่ำ รวมถึงจัดให้มีที่อยู่อาศัยสำหรับนักเรียนในเมืองศูนย์กลางการศึกษาของแต่ละภูมิภาค รัฐบาลยังควรวางระบบมาตรฐานการศึกษา คุณวุฒิ และการเทียบโอน ให้เด็กและเยาวชนสามารถโอนย้ายระหว่างการศึกษาในระบบ นอกระบบ และตามอัธยาศัยได้อย่างสอดคล้องกับสถานการณ์ความไม่แน่นอนและความต้องการในชีวิต พร้อมทั้งลงทุนพัฒนาคุณภาพบริการการศึกษาในชนบท ควบคู่กับกระจายอำนาจให้ท้องถิ่นมีส่วนร่วมตัดสินใจจัดการศึกษาให้เหมาะสมกับความฝันและบริบทของเด็กและเยาวชนในพื้นที่
สุดท้าย รัฐบาลควรเสริมสร้างทักษะการเลี้ยงดูและการสนับสนุนเด็กและเยาวชนแก่ผู้ปกครองในเชิงรุก โดยเฉพาะกลุ่มผู้สูงอายุ เพื่อให้ผู้ปกครองเป็นอีกหนึ่งพลังที่ช่วยผลักดันบุตรหลานให้กล้าและเติมเต็มความฝันของตนได้อย่างดีที่สุด
รายการอ้างอิง
[1] คิด for คิดส์ คำนวณจากผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน สำนักงานสถิติแห่งชาติ (2023); และจำนวนประชากรจากการทะเบียน สำนักงานสถิติแห่งชาติ (2022).
[2] คิด for คิดส์ คำนวณจากผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน สำนักงานสถิติแห่งชาติ (2023).
[3] เพิ่งอ้าง.
[4] คิด for คิดส์ คำนวณจากข้อมูลสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (2024).
[5] เพิ่งอ้าง.
[6] วรดร เลิศรัตน์, “หยุดขุดหลุมฝังประเทศด้วย ‘เงินอุดหนุนเกษตรกร’ แบบเดิมๆ,”
101 Public Policy Think Tank, 11 มกราคม 2023, https://101pub.org/farmer-income-support-
reform/ (เข้าถึงเมื่อ 4 มิถุนายน 2024).
[7] International Labour Organization [ILO], “Employment by Sex, Economic Activity, and Rural / Urban Areas (Thousands) – Annual,” ILOSTAT Explorer, 2023, https://rshiny.ilo.org/dataexplorer38/?lang=en&id=EMP_TEMP_SEX_ECO_GEO_NB_A (accessed June 3, 2024).
[8] ILO, “Employment by Sex, Occupation, and Rural / Urban Areas (Thousands) – Annual,” ILOSTAT Explorer, 2023, https://rshiny.ilo.org/dataexplorer28/?lang=en&id=EMP_TEMP_SEX_OCU_GEO_NB_A (accessed June 3, 2024).
[9] คิด for คิดส์ คำนวณจากข้อมูลสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (2023).
[10] คิด for คิดส์ คำนวณจากผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน สำนักงานสถิติแห่งชาติ (2023).
[11] คิด for คิดส์ คำนวณจากข้อมูล Organisation for Economic Co-operation and Development [OECD] (2023).
[12] คิด for คิดส์ คำนวณจากผลสำรวจภาวะเศรษฐกิจและสังคมของครัวเรือน สำนักงานสถิติแห่งชาติ (2023).
[13] เพิ่งอ้าง.