เยาวชนไทยไม่ไร้ศรัทธา?: เข้าใจพลวัตความเชื่อต่อศาสนาและจริยธรรมของเยาวชนผ่านแบบสำรวจ คิด for คิดส์

ประเด็นสำคัญ

  • ศาสนาที่ถูกระบุไว้บัตรประชาชนของเยาวชนระหว่างปี 2022 กับ 2025 แตกต่างกันไม่มาก ทั้งนี้ มีเยาวชนประมาณ 1 ใน 5 ที่การนับถือศาสนาในชีวิตประจำวัน
  • เยาวชนผู้ตอบแบบสำรวจในปี 2025 มีแนวโน้มจะโอบรับแนวคิดศาสนาแบบดั้งเดิมมากยิ่งขึ้น ทั้งในระดับมุมมองต่อผู้อื่น สถาบันทางศาสนา หรือระดับรัฐ นอกจากนี้ เยาวชนมองว่าศาสนาไม่ใช่สิ่งล้าหลังหรือเป็นปัญหาสังคมเพิ่มขึ้นอย่างมาก จาก 14.9% เป็น 47.0%
  • ความเคร่งในศาสนาก็อาจมาพร้อมกับ ‘การละเลยคุณธรรม’ (Moral Disengagement) โดยเยาวชนที่เคร่งศาสนามีลักษณะคล้อยตาม (conform) กับธรรมเนียมปฏิบัติในสังคมมากกว่ากลุ่มที่ไม่เคร่งศาสนาโดยเปรียบเทียบ นอกจากนี้ยังมีแนวโน้มที่ยอมรับการกระทำที่อาจเป็นภัยต่อคนอื่นหากทำลงไปด้วยเจตนาที่ดี

‘ศาสนา’ คือเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจประเภทหนึ่ง แม้จะจับต้องได้ยากแต่ก็มีอิทธิพลอย่างยิ่งในการกำหนดการกระทำของมนุษย์ตั้งแต่ระดับปัจเจก เช่น ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น การไม่โกหก ไปจนถึงระดับสังคมในการสร้างวาระร่วมภายใต้ร่มแนวคิดทางศาสนา

หลายครั้งเราอาจคิดว่าศาสนามีอิทธิพลลดลงอย่างมากโดยเฉพาะกับเด็กรุ่นใหม่ เห็นได้จากที่เด็กรุ่นใหม่ (ดูจะ) สนใจศาสนาน้อยลง หรือเริ่มจะไม่เชื่อในสิ่งเหนือธรรมชาติ หลายคนมองว่าในอนาคตศาสนาจะตายไปในที่สุด

แต่ศาสนากำลังจะตายจริงหรือไม่? คิด for คิดส์ ชวนสำรวจมุมมองเยาวชนอายุ 15 – 25 ปี จากแบบสำรวจเยาวชนของ คิด for คิดส์ ประจำปี 2022[1]ฉัตร คำแสง, วรดร เลิศรัตน์, เจณิตตา จันทวงษา และสรวิศ มา. (2022). ผลสำรวจเยาวชน … Continue reading และ 2025[2]วรดร เลิศรัตน์, ทิพย์นภา หวนสุริยา, ศุภณัฐ ศรีอุทัยสุข, และ ธนกฤต … Continue reading ทั้งการนับถือศาสนา มุมมองต่อความเชื่อทางศาสนา ความเชื่อถือต่อสถาบันทางศาสนา รวมถึงสำรวจความสัมพันธ์ระหว่าง ‘ศาสนา’ กับ ‘จริยธรรม’ ว่าจะเป็นอย่างไร?

เยาวชนนับถือศาสนาเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

เมื่อพิจารณาการนับถือศาสนาตามบัตรประชาชนของเยาวชนระหว่างปี 2022 กับ 2025 จะพบว่าศาสนาที่ถูกระบุไว้บัตรประชาชนแตกต่างกันไม่มาก โดยมีเยาวชนนับถือศาสนาพุทธ 91.7% ในผลสำรวจปี 2022 และ 90.0% ในผลสำรวจปี 2025 เยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลามลดลงจาก 6.1% เหลือ 5.1% เยาวชนที่นับถือศาสนาคริสต์เพิ่มขึ้นจาก 1.3% เหลือ 3.1% เยาวชนที่นับถือศาสนาอื่น เช่น ฮินดู ซิกข์ มีประมาณ 0.1% ของเยาวชนทั้งหมด รวมแล้วเยาวชนที่นับถือศาสนาตามบัตรประชาชนลดลงเล็กน้อยจาก 99.2% เหลือ 98.3% ขณะที่เยาวชนที่ไม่ระบุศาสนาในบัตรประชาชนเพิ่มขึ้นจาก 0.8% เป็น 1.7% ของเยาวชนทั้งหมด

เยาวชนนับถือศาสนาในชีวิตจริงเพิ่มขึ้นเล็กน้อย

ทั้งนี้ แบบสำรวจเยาวชนทั้ง 2 ปี พบว่ามีเยาวชนประมาณ 1 ใน 5 ที่การนับถือศาสนาในชีวิตประจำวัน (ต่อไปนี้จะเรียกว่า ‘นับถือศาสนาตามจริง’) แตกต่างกับที่ระบุไว้ในบัตรประชาชน[3]ปี 2022 มีเยาวชนที่นับถือศาสนาจริงไม่ตรงกับบัตรประชาชน 21.0% ปี 2025 ลดลงเหลือ … Continue reading โดยการสำรวจ 2 ปีนี้พบเยาวชนที่นับถือศาสนาตามจริงเพิ่มขึ้นจาก 81.7% เป็น 83.9% ในทางตรงข้าม เยาวชนที่ไม่นับถือศาสนาในชีวิตจริงลดลงจาก 18.3% เหลือ 16.1% ของเยาวชนทั้งหมด

หากจำแนกการนับถือศาสนาตามจริงเป็นรายศาสนาจะพบว่า ศาสนาพุทธมีสัดส่วนเพิ่มจาก 70.5% เป็น 72.0% ของเยาวชนทั้งหมด อิสลามมีสัดส่วนลดจาก 6.1% เหลือ 5.1% ขณะที่ศาสนาคริสต์มีสัดส่วนเพิ่มจาก 2.3% เป็น 5.8% ส่วนศาสนาอื่นๆ เช่น นับถือผีหรือธรรมชาติ (ซึ่งเป็นสิ่งที่มีเยาวชนรายงาน) ลดลงจาก 3.3% เหลือ 1.3%

เมื่อพิจารณาเยาวชนตามกลุ่มรายได้ เพศวิถี และการศึกษา จะพบว่ากลุ่มที่เดิมทีนับถือศาสนาน้อยกว่ากลุ่มอื่น เช่น กลุ่มรวยที่สุด 20% (ควินไทล์ 5) กลุ่ม LGBTQ+ หรือเยาวชนที่กำลังศึกษาหรือจบการศึกษาในระดับปริญญาตรี กลับนับถือศาสนาในชีวิตจริงเพิ่มมากกว่ากลุ่มอื่นและกลับมามีสัดส่วนใกล้เคียงกับกลุ่มอื่นมากขึ้น โดยเยาวชนกลุ่มรวยที่สุด มีเยาวชนที่นับถือศาสนาในชีวิตจริงเพิ่มจาก 54.5% เป็น 77.3% เยาวชนที่เป็น LGBTQ+ เพิ่มขึ้นจาก 67.6% เป็น 75.4% ส่วนเยาวชนที่กำลังศึกษาหรือจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีเพิ่มขึ้นจาก 66.2% เป็น 77.2% ขณะที่การสำรวจพบสัดส่วนของเยาวชนที่สำเร็จการศึกษาในระดับปริญญาโทมีการนับถือศาสนาตามจริงที่ต่ำและยังลดลงจากเดิม (ตารางที่ 1)

ประเภทประเภทย่อย20222025
รวม81.7%83.9%
ระดับรายได้Q1 (ต่ำสุด)89.2%90.7%
Q286.3%88.9%
Q385.1%85.9%
Q480.2%78.7%
Q5 (สูงสุด)54.5%77.3%
เพศสภาพLGBTQ+67.6%75.4%
ชาย85.8%87.2%
หญิง83.4%88.9%
ระดับการศึกษาสูงสุดประถมศึกษา100.0%88.6%
ม.ต้น92.0%90.1%
ม.ปลาย86.8%90.2%
ปวช.84.1%89.8%
ปวส.81.6%91.3%
ปริญญาตรี66.2%77.2%
ปริญญาโท60.0%56.0%

ตารางที่ 1: สัดส่วนเยาวชนที่นับถือศาสนาในชีวิตจริงต่อเยาวชนทั้งหมด ปี 2022 กับ 2025
ที่มา: กษิดิ์เดช คำพุช และคณะ (2025) คำนวณโดย คิด for คิดส์[4]กษิดิ์เดช คำพุช, จุฬาลักษณ์ ธรรมยุติ, วิระวัลย์ เสรีวิบูลพงศ์, ภาวินันท์ … Continue reading

แม้เยาวชนที่นับถืออิสลาม – คริสต์จะมีน้อย แต่ก็เคร่งกว่าเยาวชนที่นับถือศาสนาพุทธเป็นอย่างมาก

ในกลุ่มเยาวชนที่นับถือศาสนาในชีวิตประจำวันแต่ละคนก็มีระดับการนำหลักคำสอนทางศาสนามาใช้กับชีวิตประจำวันแตกต่างกัน (ต่อไปนี้จะเรียกระดับการนำหลักคำสอนทางศาสนามาใช้ในชีวิตประจำวันว่า ‘ความเคร่ง’) โดยในภาพรวมเยาวชนส่วนใหญ่ประเมินว่าตนมีความเคร่งในระดับปานกลาง คือ 59.0% ของเยาวชนที่นับถือศาสนาในชีวิตจริงทั้งหมด รองลงมาคือเยาวชนที่ประเมินว่าตนเคร่งศาสนา คือ 25.4% และเยาวชนที่ไม่เคร่งศาสนามีน้อยที่สุด คือ 15.6%

เมื่อแบ่งตามศาสนาที่เยาวชนนับถือในชีวิตจริงจะพบว่าเยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลามและคริสต์เกินครึ่ง (อิสลาม 56.7% คริสต์ 63.1%) มองว่าตนเคร่งศาสนา แตกต่างอย่างมากกับเยาวชนที่นับถือศาสนาพุทธที่มีประมาณ 20% เท่านั้นที่มองว่าตนเคร่งศาสนา

นอกจากนี้ เยาวชนไม่ได้นำหลักคำสอนทางศาสนามาใช้เพื่อบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข มากนัก โดยกลุ่มที่มีการนับถือศาสนาในชีวิตจริงเกือบ 50% นำคำสอนมาใช้บรรเทาทุกข์ บำรุงสุขในระดับปานกลางเท่านั้น ขณะที่ 26.0% ของเยาวชนที่นับถือศาสนาไม่ได้นำคำสอนมาใช้ และอีก 24.8% นำคำสอนมาใช้เพื่อบรรเทาทุกข์ บำรุงสุขบ่อยครั้ง

เมื่อจำแนกออกตามศาสนาก็จะพบว่า เยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลามและคริสต์ส่วนใหญ่ มีการนำคำสอนทางศาสนามาใช้เพื่อบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข บ่อยครั้ง (อิสลาม 62.3%, คริสต์ 63.3%) เยอะกว่าเยาวชนที่นับถือศาสนาพุทธที่มีเพียง 18.9% เท่านั้นที่นำคำสอนมาใช้เพื่อบรรเทาทุกข์ บำรุงสุข บ่อยครั้ง

สิ่งเหล่านี้สะท้อนว่าแม้เยาวชนที่นับถือศาสนาอิสลามและคริสต์จะมีน้อยกว่าพุทธมาก แต่หากเปรียบเทียบอิทธิพลของหลักคำสอนแต่ละศาสนาต่อวิถีชีวิตของเยาวชน จะพบว่าหลักคำสอนของศาสนาอิสลามและคริสต์มีอิทธิพลต่อชีวิตเยาวชนอย่างมากเมื่อเมียบกับอิทธิพลของศาสนาพุทธต่อเยาวชน

เยาวชนมองศาสนาในแง่ดีมากขึ้น

จากการเปรียบเทียบผลสำรวจเยาวชนปี 2022 กับ 2025 พบว่าเยาวชนผู้ตอบแบบสำรวจในปี 2025 มีแนวโน้มจะโอบรับแนวคิดศาสนาแบบดั้งเดิมมากยิ่งขึ้น ทั้งในระดับมุมมองต่อผู้อื่น สถาบันทางศาสนา หรือระดับรัฐ

ในด้านมุมมองต่อผู้อื่น เยาวชนมองว่าผู้ที่จะมีจริยธรรมได้จำเป็นต้องนับถือศาสนามีสัดส่วนเพิ่มขึ้นจาก 7.1% ในปี 2022 เป็น 14.8% ในปี 2025 ในระดับสถาบันทางศาสนาจะเห็นว่าเยาวชนให้ความเชื่อถือ (Trust) ในสถาบันศาสนาเพิ่มขึ้นจาก 9.4% เป็น 12.1% รวมถึงมีมุมมองที่ดีขึ้นระหว่างศาสนา – ปัญหาสังคม โดยเยาวชนที่มองว่าศาสนาไม่ใช่สิ่งล้าหลังหรือเป็นปัญหาสังคมเพิ่มขึ้นอย่างมากจาก 14.9% เป็น 47.0% ส่วนในระดับรัฐนั้นจะเห็นว่าเยาวชนที่อยากให้รัฐไทยมีศาสนา (พุทธ) ประจำชาติเพิ่มขึ้นจาก 8.8% เป็น 19.4%

การน้อมนำคำสอนมาใช้ – คุณธรรมในใจ อาจไม่ได้เกี่ยวข้องกัน

“ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดีมีคุณธรรม” ทุกคนคงต้องเคยผ่านหูผ่านตาประโยคนี้กันมาบ้างแล้ว เพราะเป็นเนื้อหาที่ต้องท่องกันในโรงเรียน

การนับถือศาสนา ความเคร่ง และการนำคำสอนมาใช้ควรจะช่วยให้มีคุณธรรม (Moral) มากยิ่งขึ้น คำถามคือชุดคุณค่าความดีและคุณธรรมที่สอนกันมานี้เป็นอย่างไร อะไรเรียกว่าดีหรือมีคุณธรรม ซึ่งจะสะท้อนออกมาผ่านการตัดสินใจในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ที่เราอาจต้องตัดสินใจทำเรื่องที่เป็นพิษเป็นภัยต่อคนกลุ่มหนึ่ง แต่อาจให้ประโยชน์กับคนอีกกลุ่มหนึ่งได้หรือพอให้เหตุผลได้ว่าทำไมจึงควรทำเรื่องที่เป็นภัยต่อคนอื่นเหล่านั้น

ผลสำรวจพบว่าความเคร่งในศาสนาก็อาจมาพร้อมกับ ‘การละเลยคุณธรรม’ (Moral Disengagement) มากกว่ากลุ่มที่ไม่เคร่งศาสนา เยาวชนที่เคร่งศาสนามีลักษณะคล้อยตาม (conform) กับธรรมเนียมปฏิบัติในสังคมมากกว่ากลุ่มที่ไม่เคร่งศาสนาโดยเปรียบเทียบ เช่น มองว่าการทำผิดนั้นไม่ควรถูกตำหนิถ้าหากคนอื่นก็ทำเหมือนกัน ไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตนเองถ้าทำตามคำสั่งของผู้มีอำนาจ คนที่ได้รับการปฏิบัติไม่ดีเป็นเพราะรนหาที่เอง เป็นต้น

นอกจากนี้ เยาวชนกลุ่มที่เคร่งศาสนายังมีแนวโน้มที่ยอมรับการกระทำที่อาจเป็นภัยต่อคนอื่นหากทำลงไปด้วยเจตนาที่ดี เช่น การปล่อยข่าวลือเพื่อคนที่รักเป็นเรื่องที่รับได้ การแอบเอาของคนอื่นมาโดยไม่บอกนั้นไม่ผิด ตราบที่เราตั้งใจเพียงแค่ยืมมาเท่านั้น รวมถึงเยาวชนที่เคร่งศาสนายังมีแนวโน้มโทษเหยื่อมากกว่ากลุ่มที่ไม่เคร่งศาสนาด้วย (ตารางที่ 2)

ดังนั้น เยาวชนจึงอาจกำลังได้รับการเรียนรู้และปฏิบัติด้านศาสนาที่ปลูกฝังชุดความคิดที่แตกต่างออกไปจากจริยธรรมหรือคุณธรรม โดยเยาวชนที่เคร่งศาสนาสามารถยอมรับการกระทำที่อาจส่งผลเสียต่อผู้อื่นหรือผิดทางจริยธรรมโดยที่ไม่รู้สึกผิดมากกว่า

ประเด็นเคร่งศาสนาไม่เคร่งศาสนา
ไม่ควรถูกตำหนิเมื่อทำผิด ถ้าคนอื่นก็ทำเหมือนๆ กัน19.9%11.6%
ไม่ต้องรับผิดชอบต่อผลการกระทำถ้าเป็นคำสั่ง
ของผู้มีอำนาจ
13.1%8.0%
ปล่อยข่าวลือเพื่อปกป้อง
คนที่รักก็ไม่ได้ผิดอะไร
12.8%3.7%
คนอื่นถูกทำไม่ดีด้วย เพราะรนหาที่เอง11.0%4.0%
การแอบเอาของคนอื่นมาไม่ผิด ตราบที่เราตั้งใจยืมเท่านั้น9.0%1.9%
การบิดเบือนคุณสมบัติตัวเองไม่ผิดถ้าคนอื่นก็ทำเหมือนกัน8.3%3.5%
การแอบอ้างความคิดผู้อื่นว่าเป็นของตัวเองไม่ใช่เรื่องใหญ่7.7%2.8%
บางคนต้องถูกปฏิบัติรุนแรง เพราะเขาไม่มีความรู้สึกเจ็บปวด7.4%3.2%

ตารางที่ 2: สัดส่วนเยาวชนที่เห็นด้วยมาก – มากที่สุดในแต่ละประเด็น
ที่มา: วรดร เลิศรัตน์ และคณะ (2025) คำนวณโดย คิด for คิดส์
หมายเหตุ: เยาวชนที่เคร่งศาสนา คือกลุ่มเยาวชนที่มองตนมีลักษณะตรง – ตรงมากที่สุดกับข้อความ ‘ฉันนำคำสอนของศาสนามาใช้ในชีวิตประจำวันอย่างสม่ำเสมอ’ ส่วนเยาวชนที่ไม่เคร่งศาสนาคือเยาวชนที่มองว่าตนรู้สึกว่าข้อความนี้ไม่ตรงหรือตรงน้อยมากกับตัวตนของตัวเอง

ส่งท้าย

การสำรวจเยาวชนนี้ชี้ให้เห็นว่า เยาวชนกับศาสนาไม่ได้เป็นสิ่งที่เข้ากันไม่ได้ และในโลกที่มีความไม่แน่นอนและปัญหาท้าทาย ศาสนาก็อาจกลับมาเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้กับเยาวชนได้ และการที่ศาสนาเคยถูกตั้งคำถามอย่างถึงรากมาก่อน ก็อาจมีการทำงานอยู่ต่อเนื่องที่สามารถช่วยกู้ศรัทธาให้กลายเป็นสถาบันที่ได้รับความไว้วางใจเพิ่มขึ้นอย่างมาก

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลได้ชี้ว่าการนับถือศาสนาในชีวิตจริงก็อาจมาพร้อมกับการละเลยคุณธรรมได้เช่นกัน แม้จะไม่สามารถสรุปได้อย่างชัดเจน แต่การนับถือ ความเคร่ง หรือการปฏิบัติใช้ของเยาวชนไทย (หรืออาจเป็นสังคมโดยรวมซึ่งอยู่นอกเหนือขอบเขตการสำรวจ) ก็อาจเป็นเรื่องในเชิงพิธีกรรมมากกว่า หรือไม่ ศาสนาก็อาจกำลังปลูกฝังชุดคุณค่าหรือมอบวิธีคิดบางอย่างให้กับพวกเขาที่อาจไม่ได้ช่วยสร้างสังคมที่สงบสุขไร้การเบียดเบียนกัน

References

References
1 ฉัตร คำแสง, วรดร เลิศรัตน์, เจณิตตา จันทวงษา และสรวิศ มา. (2022). ผลสำรวจเยาวชน ของ คิด for คิดส์ 2022. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2025. https://kidforkids.org/youth-survey-2022/
2 วรดร เลิศรัตน์, ทิพย์นภา หวนสุริยา, ศุภณัฐ ศรีอุทัยสุข, และ ธนกฤต สำราญกมล. ผลสำรวจเยาวชนของ คิด for คิดส์ 2025. สืบค้นเมื่อ 20 มิถุนายน 2025.
3 ปี 2022 มีเยาวชนที่นับถือศาสนาจริงไม่ตรงกับบัตรประชาชน 21.0% ปี 2025 ลดลงเหลือ 19.4%
4 กษิดิ์เดช คำพุช, จุฬาลักษณ์ ธรรมยุติ, วิระวัลย์ เสรีวิบูลพงศ์, ภาวินันท์ สินไชย และวรดร เลิศรัตน์. (2025). ถูกสาปให้พ่ายแพ้ในกระแสความเปลี่ยนแปลง รายงานสถานการณ์เด็กและครอบครัว ประจำปี 2025 เล่มผนวกที่ 1: สถิติสำคัญด้านเด็ก เยาวชน และครอบครัว. สืบค้นเมื่อ 7 กรกฎาคม 2025. https://kidforkids.org/child-family-situation-report-2025/

อินโฟกราฟฟิก

บทความที่เกี่ยวข้อง

ถูกสาปให้พ่ายแพ้ในกระแสความเปลี่ยนแปลง: รายงานสถานการณ์เด็กและครอบครัว ประจำปี 2025

คิด for คิดส์ ชวนอ่าน “ถูกสาปให้พ่ายแพ้ในกระแสความเปลี่ยนแปลง: รายงานสถานการณ์เด็กและครอบครัว ประจำปี 2025” พร้อม “สถิติสำคัญด้านเด็กและครอบครัว”

เยาวชนไทยกับคำสาป 8 ประการ: เด็กไทยพร้อมรับมือแค่ไหนในวันที่โลกเปลี่ยนแปลง?

ชวนสำรวจรายงานสถานการณ์เด็กและครอบครัว ประจำปี 2025 โดย คิด for คิดส์ ที่สะท้อนสถานการณ์เด็กและเยาวชนในหลากมิติ

ผลสำรวจเยาวชนของ คิด for คิดส์ 2022

ชุดข้อมูลผลสำรวจเยาวชนของ คิด for คิดส์ ซึ่งสำรวจความรับรู้ คุณค่า และทัศนคติของเยาวชนไทยอายุ 15-25 ปี จากกลุ่มตัวอย่าง 19,237 คนทั่วประเทศ

ศูนย์ความรู้นโยบายเด็กและครอบครัว (คิด for คิดส์)

ศูนย์วิจัยและสื่อสารความรู้เพื่อตอบโจทย์อนาคต มุ่งวิเคราะห์ ออกแบบ เผยแพร่ความรู้ และขับเคลื่อนนโยบายสาธารณะด้านเด็ก เยาวชน ครอบครัว และการเรียนรู้ เพื่อเป็นฐานสนับสนุนทางวิชาการให้กับสำนักสนับสนุนสุขภาวะเด็ก เยาวชน และครอบครัว สสส. และภาคีเครือข่าย

Copyright © 2025 kidforkids.org | All rights reserved.